ประเทศไทยของเรามีระบอบการปกครองในรูปแบบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นองค์ประมุข ถ้าจะย้อนกลับไปดูถึงที่มาที่ไปของระบอบการปกครองในรูปแบบประชาธิปไตยซึ่งมีการเลือกตั้งเป็นเสมือนเครื่องมือหลักของระบอบแล้วละก็ คงต้องย้อนไปถึงเมื่อปี พ.ศ. 2476 หลังจากที่ประเทศของเราได้เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชมาเป็นระบอบประชาธิปไตย ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ในการเลือกตั้งครั้งแรกนั้นเกิดขึ้นหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองประมาณ 1 ปี จุดประสงค์ของการเลือกตั้งก็เพื่อจะให้ประชาชนที่เป็นคนไทยได้มีสิทธิและเสียงเลือกตัวแทนของตนเข้าไปบริหารปกครองประเทศ ตัวแทนเหล่านี้นจะเข้าไปทำหน้าที่ประขุมออกนโยบาย บริหารบ้านเมืองแทนเรา ในการเลือกตั้งครั้งแรกของประวัติศาสตร์ไทยในปี พ.ศ. 2476 เป็นการเลือกตั้งในแบบทางอ้อมครั้งเดียวที่เกิดขึ้น เป็นช่วงที่พระยาพหล พลพยุหเสนาเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ ในครั้งนั้นประเทศไทยมีทั้งหมด 70 จังหวัดและมีการเลือกตั้งผู้แทนได้จังหวัดละ 1 คน ยกเว้นจังหวัดพระนคร อุบลราชธานี มีผู้แทนได้ 3 คน จังหวัด เชียงใหม่มหาสารคาม ร้อยเอ็ด นครราชสีมา มีผู้แทนได้ 2 คน มีผู้แทนจากการแต่งตั้งอีก 78 คนเท่ากัน เมื่อรวมกันแล้วได้ 156 คนจัดตั้งเป็นคณะรัฐบาลมีวาระทั้งหมด 4 ปี หลังจากนั้นจึงจะมีการเลือกตั้งกันใหม่ ครั้งแรกของการเลือกตั้งมีผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งอยู่ทั่วประเทศทั้งหมด 4,278,231 คนและมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งในครั้งนี้ 1,773,532 คน ประเทศไทยของเรามีการเลือกตั้งมาแล้วทั้งหมด 27 ครั้งโดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2554 ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 9 ในช่วงเวลากว่า …
การเลือกตั้งนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร
